Big Data กับ Data Scientist

ในยุคดิจิทัล องค์กรไหนที่มี “Big Data” และสามารถ “วิเคราะห์-จัดการข้อมูล” ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ องค์กรนั้นย่อมมีความได้เปรียบในการแข่งขัน

เมื่อ “Big Data” ยิ่งทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ นี่จึงทำให้สายอาชีพ “Data Scientist” หรือ “นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล” ผู้ทำหน้าที่ในการตีความ หรือวิเคราะห์ และจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ กำลังเป็นตำแหน่งงานที่มาแรงในยุคดิจิทัล และเป็นที่ต้องการของตลาดงานทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นกัน แต่ขณะนี้พบว่าคนทำงานในสายงานนี้ยังมีน้อย สวนทางกับความต้องการของตลาดงาน ที่องค์กรทั่วโลก ไม่ว่าจะภาครัฐ และเอกชนต่างต้องการบุคลากรด้านนี้โดยเฉพาะ

Data Science ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

Data Science เกิดประกอบขึ้นจาก 3 ศาสตร์หลักๆ ครับคือ Hacking Skill (สกิลเกี่ยวกับ Computer? ได้แก่ Programming, Data Base, Big data Technologies), Statistic & Math และ Substantive Expertise (บางแห่งก็จะเรียกว่า Domain Knowledge) ที่จำเป็นต้องการประยุกต์ใช้

เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้ว Data Science ไม่ใช่ความรู้ใหม่ครับ แต่มันคือการนำความรู้เดิมที่มีอยู่มารวมและประยุกต์เข้าด้วยกันจนเกิดเป็นของใหม่ ซึ่งต้องบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดการศาสตร์และสกิลหลากหลายแขนงเข้าด้วยกัน และเอาเข้าจริงการจะหาคนที่เป็น Data Scientist แบบเต็มตัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย (คนเดียวที่เก่งทุกอย่าง) ฉะนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการทำงานเป็น ‘ทีม Data Science’ ที่ประกอบด้วยคนที่เก่งแต่ละด้านมาอยู่ในทีมเดียวกัน ซึ่งสิ่งที่จะเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจาก Data Science ก็เช่น
– ค้นพบสิ่งที่เราไม่เคยรู้มาก่อนจากข้อมูล
– พยายามสร้าง Model สำหรับการพยากรณ์ต่างๆ จากข้อมูล (Predictive Model) และนำสิ่งที่ได้ไปปฏิบัติได้
– สร้าง Data Product ใหม่ๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ
– ทำให้ฝ่ายธุรกิจมีความมั่นใจในและสามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น (Data-Driven Business)

ทำไมคนทั่วไปและธุรกิจต้องสนใจ?

ประการแรกเพราะเราทุกคนต่างก็เป็นผู้ให้ข้อมูล อย่าลืมว่าเราถ่ายภาพวันละหลายภาพ, เราส่งอีเมล์,เราโพสท์ลง Social Media, เราใส่นาฬิกาออกกำลังกาย และเราทำสิ่งต่างๆ อีกมากมายที่เป็นการผลิตข้อมูล ซึ่งส่วนใหญ่แล้วธุรกิจก็จะนำข้อมูลเหล่านี้ ไปวิเคราะห์และนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับพฤติกรรมและนิสัยของเรามากขึ้น อย่างที่ง่ายที่สุดก็เช่น โฆษณาบน Facebook ที่เราแค่ไปสนใจอะไรแว้บเดียว โฆษณาสิ่งเหล่านั้นก็มาโผล่ให้เราเห็นแล้ว หรือการแนะนำ สินค้าที่คุณน่าจะชอบ บน Amazon ต่างก็เป็นอิทธิฤทธิ์ของข้อมูลที่ทำให้ผู้ให้บริการทำสิ่งเหล่านี้ได้

แล้วสำหรับธุรกิจล่ะ?

อย่างที่คนทำธุรกิจอยู่แล้วครับว่าข้อมูลคือสินทรัพย์อันล้ำค่าสำหรับการธุรกิจ เราถึงได้เริ่มทำการวิจัยตลอดหรือวิจัยผู้บริโภคกัน ซึ่งเราอาจจะมีข้อมูลสำหรับการวิเคราะก์กันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการซื้อขาย, ข้อมูลการคุยโทรศัพท์หรืออีเมล์กับลูกค้า แต่ Big Data และ Data Science จะมาซึ่งข้อมูลที่ใหม่และใหญ่กว่าเดิม ซึ่งหากสามารถหยิบจับเอาข้อมูลเหล่านั้นมาจัดการ มาวิเคราะห์ได้ย่อมเกิดประโยชน์อย่างแน่นอน แผนภาพด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างคร่าวๆ ว่าทุกวันนี้ Data Science มาประยุกต์ในธุรกิจแบบไหนบ้าง

ที่มา     http://alldatascience.com/what-is-data-science/
            http://www.slideshare.net/capgemini/impact-of-big-data-on-analytics